หลากหลายข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องผม มักจะมีเรื่องกังวลตามมาด้วยอยู่เสมอ เรื่องการกัดสีผม นี่ก็อีกเช่นกันที่สาวๆ หลายต่อหลายคนกลัว แต่ถ้าหากอยากจะมีสีผมจี๊ดๆ แซ่บๆ แล้วละก็ต้องผ่านกระบวนการ ฟอก กัด สีผมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉะนั้นก่อนเตรียมไปทำสีผมให้สวยเด่น ลองไปเก็บข้อมูลกันไว้ก่อนดีไหมค่ะ
ควรเตรียมตัว
เตรียมใจก่อนลงมือ ถ้าหากว่าสาวๆ ที่เลือกจะกัดสีผมแล้วนั้นจะต้องเข้าใจว่าเส้นผมที่ได้รับการกัด จะแห้งและเสียมาก เพราะน้ำยา สารเคมีที่ใช้ในการกัดนั้นค่อนข้างรุนแรง จึงควรให้ช่างทำสีผมที่มีความเชี่ยวชาญเป็นคนกัดสีให้จะได้ผลดีที่สุด แต่ท้ายที่สุดแล้วหากสาว ๆ จะลงมือทำเองนั้นก็ควรมีการเตรียมเส้นผมให้พร้อม ควรทิ้งระยะการใช้เคมี อย่างการดัด ยืด ทำสีมาก่อนล่วงหน้า 2 อาทิตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีแผลสดหรือสะเก็ดแผลบนหนังศีรษะก็ต้องรักษา ให้หายสนิทเสียก่อน จึงทำการกัดสีผมได้
ไล่เรียงวิธีการกัดสีผม
โดยในการกัดสี จะไม่เหมือนกับการทำสีตรงที่ว่า การกัดคือการทำให้สีผมนั้นอ่อนลง ไม่ได้เป็นการใส่สีลงไปที่เส้นผมเหมือนการทำสี โดยหาซื้อวัสดุและอุปกรณ์หลักๆ ได้จากร้านบิวตี้เสริมสวยทั่วไป ทั้งแบบสำเร็จรูปก็มีอยู่หลายยี่ห้อหรือจะหาซื้อแบบแยกชิ้นก็มีขาย ดังต่อไปนี้ คือไฮโดรเยนเปอร์ออกไซด์ ผงฟอก ภาชนะผสม แปรงป้าย ถุงมือ วาสลีน เป็นต้น
เริ่มด้วยการทาวาสลีนให้ทั่วกรอบหน้าและใบหู เพื่อป้องกันสีติดกับผิวหนังในภายหลัง แล้วจึงเตรียมไฮโดรเยนเปอร์ออกไซด์ โดยเลือกใช้ตามสภาพเส้นผมตั้งแต่ 6% , 9% และ12% ยิ่งเปอร์เซ็นต์มากสีที่ออกมาก็จะยิ่งอ่อนมากไปผสมกับผงฟอกใส่ตามปริมาณที่ แต่ละยี่ห้อกำหนดไว้ คนให้เข้ากันดี จึงค่อย ๆ ทาให้ทั่วทั้งศีรษะแบบชุ่ม ๆ ถ้าไม่ทั่วถึงจะทำให้ผมออกมาด่าง แล้วเว้นโคนไว้ (เหมือนกับการทำสีผม) จากนั้นจึงเติมโคน ทิ้งไว้จนได้สีในระดับที่ต้องการ แล้วจึงล้างออกด้วยแชมพูอ่อนๆ เป่าให้แห้งก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
เทคนิคการดูแลหลังการกัดสี
ซึ่งเมื่อกัดสีและลงสีผมที่ต้องการแล้วให้แวกซ์เคลือบเงาลงไปด้วย เพราะสีผมที่ฟอกนั้นจะหลุดเร็ว แถมยังได้สีผมสวย เปล่งประกายเงางาม
เลือกใช้ทรีทเม้นท์บำรุงผม ครีมนวดผมสำหรับผมทำสีทุกครั้งหลังสระ เน้นยี่ห้อดี ๆ เพื่อคืนสุขภาพให้กับเกล็ดผมที่เราได้ทำร้ายไป
การรับประทานอาหารที่มอบวิตามิน แร่ธาตุบำรุงเส้นผมให้สวยอย่าง ปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง ข้าวกล้อง งาดำ ฟักทองและแครอท
ซึ่งอย่างไรก็ตามสาวๆ ต้องไม่ลืมที่จะศึกษาขั้นตอนและเครื่องมือที่ใช้ให้ถูกต้องเพื่อป้องกัน อันตรายจากเคมีในการกัดสีผมกันด้วยนะคะ
ควรเตรียมตัว
เตรียมใจก่อนลงมือ ถ้าหากว่าสาวๆ ที่เลือกจะกัดสีผมแล้วนั้นจะต้องเข้าใจว่าเส้นผมที่ได้รับการกัด จะแห้งและเสียมาก เพราะน้ำยา สารเคมีที่ใช้ในการกัดนั้นค่อนข้างรุนแรง จึงควรให้ช่างทำสีผมที่มีความเชี่ยวชาญเป็นคนกัดสีให้จะได้ผลดีที่สุด แต่ท้ายที่สุดแล้วหากสาว ๆ จะลงมือทำเองนั้นก็ควรมีการเตรียมเส้นผมให้พร้อม ควรทิ้งระยะการใช้เคมี อย่างการดัด ยืด ทำสีมาก่อนล่วงหน้า 2 อาทิตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีแผลสดหรือสะเก็ดแผลบนหนังศีรษะก็ต้องรักษา ให้หายสนิทเสียก่อน จึงทำการกัดสีผมได้
ไล่เรียงวิธีการกัดสีผม
โดยในการกัดสี จะไม่เหมือนกับการทำสีตรงที่ว่า การกัดคือการทำให้สีผมนั้นอ่อนลง ไม่ได้เป็นการใส่สีลงไปที่เส้นผมเหมือนการทำสี โดยหาซื้อวัสดุและอุปกรณ์หลักๆ ได้จากร้านบิวตี้เสริมสวยทั่วไป ทั้งแบบสำเร็จรูปก็มีอยู่หลายยี่ห้อหรือจะหาซื้อแบบแยกชิ้นก็มีขาย ดังต่อไปนี้ คือไฮโดรเยนเปอร์ออกไซด์ ผงฟอก ภาชนะผสม แปรงป้าย ถุงมือ วาสลีน เป็นต้น
เริ่มด้วยการทาวาสลีนให้ทั่วกรอบหน้าและใบหู เพื่อป้องกันสีติดกับผิวหนังในภายหลัง แล้วจึงเตรียมไฮโดรเยนเปอร์ออกไซด์ โดยเลือกใช้ตามสภาพเส้นผมตั้งแต่ 6% , 9% และ12% ยิ่งเปอร์เซ็นต์มากสีที่ออกมาก็จะยิ่งอ่อนมากไปผสมกับผงฟอกใส่ตามปริมาณที่ แต่ละยี่ห้อกำหนดไว้ คนให้เข้ากันดี จึงค่อย ๆ ทาให้ทั่วทั้งศีรษะแบบชุ่ม ๆ ถ้าไม่ทั่วถึงจะทำให้ผมออกมาด่าง แล้วเว้นโคนไว้ (เหมือนกับการทำสีผม) จากนั้นจึงเติมโคน ทิ้งไว้จนได้สีในระดับที่ต้องการ แล้วจึงล้างออกด้วยแชมพูอ่อนๆ เป่าให้แห้งก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
เทคนิคการดูแลหลังการกัดสี
ซึ่งเมื่อกัดสีและลงสีผมที่ต้องการแล้วให้แวกซ์เคลือบเงาลงไปด้วย เพราะสีผมที่ฟอกนั้นจะหลุดเร็ว แถมยังได้สีผมสวย เปล่งประกายเงางาม
เลือกใช้ทรีทเม้นท์บำรุงผม ครีมนวดผมสำหรับผมทำสีทุกครั้งหลังสระ เน้นยี่ห้อดี ๆ เพื่อคืนสุขภาพให้กับเกล็ดผมที่เราได้ทำร้ายไป
การรับประทานอาหารที่มอบวิตามิน แร่ธาตุบำรุงเส้นผมให้สวยอย่าง ปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง ข้าวกล้อง งาดำ ฟักทองและแครอท
ซึ่งอย่างไรก็ตามสาวๆ ต้องไม่ลืมที่จะศึกษาขั้นตอนและเครื่องมือที่ใช้ให้ถูกต้องเพื่อป้องกัน อันตรายจากเคมีในการกัดสีผมกันด้วยนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น