วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557

การจัดฟัน เหมือนจะเป็นกระแสนิยมมากที่สุด

   ปัจจุบัน การจัดฟัน เหมือนจะเป็นกระแสนิยมตามแฟชั่นมากกว่าที่จะรักษาสุขภาพฟัน สังเกตว่าลักษณะของเหล็กดัดฟันจะเน้นที่สีสันความสดใส เพื่อกระตุ้น แฟชั่นให้กลุ่มวัยรุ่นเข้ามาใช้บริการจัดฟัน
  ดังนั้นการดัดฟันหรือการจัดฟัน นั้นเป็นการ จัดการเคลี่อนฟันไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม โดยอาศัยเครื่องมือบางชนิดซึ่งมีทั้งแบบถอดได้ และแบบที่ยึดติดอยู่ กับตัวฟัน แบบที่อยู่ในช่องปากและแบบที่อยู่นอกช่องปากนอกจากนี้การจัดฟันยังรวมไปถึงการแก้ไขลักษณะนิสัยที่ผิดปกติในการบดเคี้ยว การเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของขากรรไกร เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดทั้งในด้านความสวยงาม และการทำหน้าที่

การจัดฟันจากสาเหตุ ที่พบบ่อยๆ คือ
1. จัดฟัน เพราะฟันเก เรียงตัวไม่ดีทำให้เคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียดหรือเคี้ยวได้ไม่ดี
2. จัดฟัน เพราะฟันซ้อนเก ทำให้แปรงฟันหรือทำความสะอาดฟันได้ยาก จะทำให้เกิดฟันผุและเหงือกอักเสบได้ง่าย
3. จัดฟัน เพราะฟันไม่สวยงาม เช่น ฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันยื่น มีเขี้ยว ฟันกระต่าย ฯลฯ
4. จัดฟัน เพราะขากรรไกรผิดรูป หรือฟันเกจากนิสัยที่ผิดปกติบางอย่าง เช่น การดูดนิ้ว การกลืนที่ผิดปกติ
5. จัดฟัน เพราะฟันล้มเอียง หรือห่างจากกันเนื่องจากการถอนฟันแล้วทิ้งไว้โดยไม่ได้ใส่ฟันปลอมนานเกินไป
6. จัดฟัน เพราะมีประวัติปากแหว่ง เพดานโหว่ หรืออุบัติเหตุ ทำให้ขากรรไกรและการเรียงตัวของฟันผิดรูปไป
ข้อดีของการจัดฟัน
1.ความสวยงาม การจัดฟันจะทำให้ฟันเรียงตัวสวยงามเป็นการเสริมสร้างบุคลิกภาพและเพิ่มความมั่นใจให้แก่ตัวเองอีกด้วย
2.ฟันซ้อนเก ตัวอุปสรรคที่จะทำให้เราทำความสะอาดหรือแปรงฟันได้ยากและไม่ทั่วถึง ส่งผลให้มีคราบอาหารและคราบจุลินทรีย์รวมทั้งหินปูนมาเกาะจับที่ตัว
ฟันอยู่เยอะ ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆก็จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดฟันผุและโรคเหงือกได้ ฟันซ้อนเก จะทำให้เมื่อเราใช้ฟันในการบดเคี้ยวอาหารประจำวัน จะเกิดการสึกของฟันในตำแหน่งที่ไม่ควรจะเกิดทำให้การสบฟันผิดจากตำแหน่งปกติที่ ควรจะเป็น จึงส่งผลให้ยิ่งนานไปยิ่งจะทำให้เกิดปัญหาต่อตัวฟัน เหงือกและข้อต่อขกรรไกร
3. การบดเคี้ยวอาหาร การจัดฟันจะทำให้บดเคี้ยวอาหารได้ดียิ่งขึ้น และย่อยอาหารได้ดียิ่งขึ้น กระเพาะอาหารไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป เนื่องจากการบด เคี้ยวเป็นขั้นแรกในการย่อยอาหาร
4.จัดฟันแล้วทำให้ปัญหาต่างๆทางทันตกรรมลดลง

***คลินิกทันตกรรม ที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นส่วนลด*** 
    


  


  


    


วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ทรีทเม้นท์บำรุงผม ทำให้ผมยาวไวขึ้น

   การมีทรงผมยาวสลวยสุขภาพดีถือเป็นการบ่งบอกว่าเราเราเป็นคนรักษาสุขภาพ ใส่ใจดูแลตัวเอง  เพราะต่อให้คุณเป็นผู้หญิงหน้าตาไม่ได้สวยปานดารา แต่แค่มีผมยาวก็มัดใจใครหลายคนได้อยู่หมัดเลยที่เดียวจ้า  แต่ทว่าการเลี้ยงผมให้ยาวไวดูจะเป็นเรื่องยากของสาว ๆ หลายคนเลยเนอะ ใครที่กังวลกลัวผมจะไม่ยาวหรือยาวช้าไม่ทันใจ ลองใช้วิธีนี้ไปใช้ดูจ้า
 

1. กระตุ้นหนังศีรษะ ด้วยการนวด
   เวลาที่เราสระผม ให้ลองนวดหนังศีรษะเบา ๆ ร่วมด้วยประมาณ 1 หรือ 2 นาที วิธีนี้จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ซึ่งจะนำมาสู่การที่ผมงอกได้รวดเร็วขึ้น
2. กินวิตามิน
   หากต้องการจะเร่งให้ผมยาวไวยิ่งขึ้น ก็ลองหาวิตามินที่ช่วยทำให้ผมใหม่งอกเร็วอย่างวิตามินบีดูสิคะ ซึ่งนอกจากจะทำให้ผมยาวเร็วแล้ว ก็ยังจะช่วยทำให้ผิวและเล็บสุขภาพดีด้วย



3.เล็มผมประจำ
   การเล็มผมอาจจะไม่ช่วยให้ผมเร็วขึ้นอย่างที่คิด แต่มันจะช่วยไม่ให้คุณมีปัญหาผมเสียแตกปลาย ซึ่งจะทำให้เส้นผมของคุณสุขภาพดีและช่วยให้เส้นผมของคุณยาวอย่างรวดเร็วนั่นเอง

4. ป้องกันไม่ให้มีผมแห้งเสีย
   อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ผมของคุณยาวได้อย่างรวดเร็ว นั่นคือการป้องกันไม่ให้ผมแห้งเสีย ฉะนั้นคุณควรจะหวีผมในขณะที่ผมเปียกอย่างเบามือ โดยเริ่มจากด้านล่างขึ้นสู่ด้านบน ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เส้นผมแข็งแรงและจะดูหนามากขึ้น ที่สำคัญคุณควรจะบำรุงผมด้วยทรีทเม้นท์ดี ๆ อยู่เสมอ

5. ทรีทเม้นท์บำรุงผม
   การที่คุณต้องเจอกับปัญหาผมแตกปลายหรือผมแห้งเสีย ก็อาจจะเป็นเพราะว่าคุณเลือกใช้แชมพูและครีมนวดผมที่ไม่เหมาะกับสภาพผมก็เป็นได้ ดังนั้นคุณควรจะลงทุนซื้อแชมพูและครีมนวดใหม่ที่มีส่วนผสมของเคราติน ที่จะช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรงและยาวได้เร็วยิ่งขึ้น
   แค่ลองทำตามวิธีเหล่านี้ เราก็จะได้เป็นเจ้าของผมยาวสลวยสวยเก๋ได้อย่างใจต้องการแล้ว รับรองว่าผมยาวจะทำให้คุณมีเสน่ห์มากขึ้นเป็นกองแน่นอนจ้า อิอิ

ที่มา www.bookup.asia

วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เทคนิคการนวดขับสารพิษ

    

ผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่ผ่องใส อาจเกิดจากหลายๆปัญหาเพราะผิวหน้าเต็มไปด้วยสารพิษตกค้างต่างหาก วันนี้ bookup asia จึงมาช่วยเราเผยเทคนิคการนวดขับสารพิษที่ทำได้ง่าย
ด้วยตัวเราเอง ดังนี้จ้า

1. ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางคลึงเป็นวงกลมบริเวณเหนือไหปลาร้า 20 ครั้ง แบ่งเป็นเซ็ต เซ็ตละ 5 ครั้ง
2. วางมือทั้งสองข้างบริเวณคอ จากนั้นคลึงเป็นรูปวงกลมลงไปที่คอ 2 จุด จุดละ 5 ครั้ง ทำซ้ำ 3 รอบ
3. ใช้ข้อนิ้วทั้ง 4 คลึงเป็นวงกลมบริเวณคาง ไปที่หู 3 จุด จุดละ 5 ครั้ง ทำซ้ำ 3 รอบ
4. ใช้ปลายนิ้วทั้ง 4 คลึงเป็นวงกลมบริเวณคาง ไปที่หู 3 จุด จุดละ 5 ครั้ง ทำซ้ำ 3 รอบ
5. ใช้ปลายนิ้วกลางคลึงเป็นวงกลมบริเวณจมูก ใช้นิ้วกลางนิ้วเดียวเริ่มจากสัน 2 ด้านที่ปีกจมูก แล้วคลึงลงมาที่ปีกจมูก เลื่อนไปที่หู 3 จุด จุดละ 5 ครั้ง ทำซ้ำ 3 รอบ
6. ใช้ปลายนิ้วทั้ง 4 คลึงเป็นวงกลมบริเวณโหนกแก้ม ไปที่หู 3 จุด จุดละ 5 ครั้ง ทำซ้ำ 3 รอบ
7. ใช้ปลายนิ้วนางแตะเบา ๆ บริเวณใต้ตา และคลึงเป็นวงกลม ไปที่หู 3 จุด หัวตา กลางใต้ตาดำและหางตา จุดละ 5 ครั้ง ทำซ้ำ 3 รอบ 
8. ใช้ปลายนิ้วทั้ง 4 คลึงเป็นวงกลมบริเวณหน้าผาก ไปที่หู 2 จุด จุดละ 5 ครั้ง ทำซ้ำ 3 รอบ

เคล็ดลับ **นวดหน้าไปพร้อมกับเซรั่มหรือโลชั่น ช่วยลดการเสียดสี และยังเพิ่มสารบำรุงให้ผิวหน้าไปในตัว

ที่มา http://bookup.asia

วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2557

รอยสักของเหล่าคนดัง สวย แซ่บ !!

 สาว ๆ คนไหนที่ชื่นชอบในการเพิ่มความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ด้วยรอยสัก ก็ควรคิดทบทวนดูดี ๆ นะคะ  ว่าลวดลายที่อยากสักนั้นเราชอบจริง ๆ หรือตามกระแส รวมทั้งการเลือกร้านและช่างสักก็ควรหาข้อมูลให้ดีให้เป๊ะก่อนสัก จะได้ไม่มาคิดเสียใจและเสียดายเงินทีหลังยังไงล่ะ แต่ถ้าหากสาว ๆ คนไหนยังไม่มีไอเดียว่าจะสักรูปอะไรดี วันนี้ bookup.asia ได้รวมรอยสักเซเลบริตี้หญิงมาฝากเพื่อไว้เป็นไอเดียกันค่ะ บอกเลยว่าสวย แซ่บ แนวทุกแบบจริง ๆ จ้า


มาถึง เหล่าดารานักร้องและเซเลบริตี้ผู้หญิงชื่อดังทั้งหลาย ต่างก็พากันไปทำลวดลายสวยงามมาประดับบนเรือนร่างกัน   ยิ่งไปกว่านั้น สาวฝรั่งก็แห่บินกันมาเมืองไทยเพื่อมาสักยันต์กับอาจารย์ชื่อดังกันยกใหญ่ เห็นแบบนี้แล้วต้องบอกจริง ๆ เลยว่า เดี๋ยวนี้รอยสักเริ่มกลับมาเป็นแฟชั่นสวย ๆ อีกครั้งแล้วล่ะ เพราะสังคมสมัยนี้ก็เริ่มเปิดกว้างไม่ปิดกั้นความคิดอย่างที่เคยเป็นแล้วจ้า


 

**ร้านที่ ให้บริการ ออกแบบรอยสัก**

วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

รักษาตับ ด้วยคอร์สล้างสารพิษ



ยุคนี้เราเลยต้องหันมาดูแลตัวเองให้มากๆแล้วค่ะ  นอกจากการออกกำลังกายและรู้จักเลือกบริโภคแล้ว มีอีกหลายหนทางที่จะช่วยฟื้นฟูร่างกายให้ดีขึ้น ‘การล้างพิษตับ’ ก็เป็นอีกทางหนึ่งในการดูแลและบำบัดตัวเอง"คอร์สล้างพิษตับ 3 วันที่เราเคยได้ยินได้เห็นดูจะเหมาะกับมือใหม่และคนเมืองเวลาน้อย แต่ก่อนเริ่มเข้าคอร์สก็ควรงดอาหารหนักหรือเนื้อสัตว์สักสัปดาห์ เพราะในคอร์สจะต้องอดอาหาร ถ้าอดกันทันทีทันใดอาจจะรู้สึกโหยหิวได้ และแน่นอนว่าการสวนล้างลำไส้ (ดีท็อกซ์) เป็นส่วนหนึ่งในคอร์ส หลายคนไม่กล้าล้างพิษตับเพราะไม่กล้าสวน เราอยากจะบอกว่ามันไม่ยากและไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดทำได้แล้วก็จะรู้สึกง่ายเลย ไปดูกันดีว่าว่า 3 วันต้องทำอะไรกันบ้างจ้า 


วันที่ 1
เราเริ่มกันที่หลังบ่ายสาม ที่เราจะงดอาหารจริงจังไม่กินอะไรแล้วแต่ดื่มน้ำได้ตามปกติ ตลอดคอร์สจะได้ดื่มน้ำด่าง (Alkaline Water) ซึ่งจะช่วยปรับสมดุล ลดความเป็นกรดในร่างกาย ก่อนเริ่มทีมงานก็จะให้ลงทะเบียนกรอกประวัติ ตรวจสุขภาพเบื้องต้นโดยวัดความดัน วัดความเป็นกรด ชั่งน้ำหนัก ใครมีโรคประจำตัวก็แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบไว้จะได้ดูแลกันได้ถูกวิธี ตอนเย็นๆ เราจะได้กินยาขับมูกเมือกเพื่อให้มูกเมือกที่เกาะผนังลำไส้มานานถูกขับถ่ายออกได้ง่ายขึ้น และเมื่อรับอุปกรณ์ดีท็อกซ์ก็แยกย้ายไปสวนล้างได้เลย ซึ่งเป็นน้ำอุ่นๆ ผสมน้ำต้มสะเดาสวนล้างลำไส้ โดยระหว่างวันเราจะได้รับสมุนไพรประเภทไฟเบอร์ให้ดื่มก่อนนอนและตอนเช้า ที่ช่วยขับถ่ายและช่วยประทังหิวได้ด้วย

วันที่ 2 
เราตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อสวนล้างลำไส้จนหกโมงเช้าทุกคนจะอมน้ำมันมะพร้าวก่อนแปรงฟัน วิธีคืออมและกลั้วในปากประมาณ 15-20 นาทีแล้วบ้วนทิ้ง เพื่อให้น้ำมันดึงสารพิษ และเชื้อโรคต่างๆ ออกมา จากนั้นก็ออกกำลังกายเบาๆ แล้วพักดื่มชาข้าวเปลือกอุ่นๆ ซึ่งควรดื่มให้ได้สัก 8 แก้วเพื่อช่วยลดไขมันและล้างระบบขับถ่าย ขณะดื่มชายังได้แช่เท้าในน้ำสมุนไพรร้อนๆ ช่วยถอนสารพิษอีกทางหนึ่ง และยังได้พอกหน้าด้วยสมุนไพรพวกขมิ้นและไพรอีกด้วย เสร็จแล้วหน้าใส ตัวเบา สบายเท้ากันเลยทีเดียว
หลังจากอาบน้ำเราจะได้ดื่มน้ำแอปเปิ้ลเขียวแยกกากทุกๆ หนึ่งชั่วโมง รวมแล้ว 5 แก้ว มีการนวด กดจุด และทำโยคะเบาๆ ก่อนช่วงเย็นที่ได้เวลาสวนล้างลำไส้กันอีกที และดื่มดีเกลือเพื่อช่วยขับถ่ายตอนค่ำ และช่วงเวลาสำคัญที่สุดคือสี่ทุ่มที่ทุกคนจะต้องดื่มน้ำมันมะกอกผสมน้ำมะนาว ที่จะไปทำปฏิกิริยากับตับในการขับสารพิษออกมานั่นเอง

วันที่ 3
เราตื่นหกโมงเช้ามาสวนล้างลำไส้กันอีกที คอร์สลักษณะนี้จะมีผู้มีความรู้มาตรวจดูของเสียที่ขับถ่ายออกมาเพื่อช่วยวิเคราะห์และให้ความรู้กับเรา (ว่าเราสะสมสารพิษประเภทไหนไว้มาก) เช้าวันนี้ได้กินอาหารเบาๆ อย่างข้าวต้มปลาและสุกี้น้ำ ก่อนที่เราจะสามารถกลับไปกินอาหารและใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ผู้เข้าล้างพิษตับยังควรสวนล้างลำไส้ที่บ้านเช้า-เย็นต่อเนื่องอีกสัก 7 วัน เพื่อให้ของเสียตกค้างออกมาให้หมด ความรู้สึกถึงภายในตอนนี้เหมือนได้รีเฟรชเลยทีเดียว หลังจากตรากตรำทำงานหนักมาตลอดชีวิต ผลพลอยได้ที่พบคือน้ำหนักลง หน้าใส สบายตัว คนที่เจ็บป่วยเป็นโรคประจำตัวใดๆ ก็ตามจะรู้สึกดีขึ้น เราได้ไอเดียกลับมาว่าจากนี้ต้องดูแลตัวเองให้ดี โดยเริ่มที่ต้นทาง ใส่ใจกับพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิต เพื่อที่โรคร้ายต่างๆ จะไม่กลับมาเยี่ยมเยือนเราอีกนั่นเอง

ขาดไม่ได้เลย คือ งานตรวจอุจจาระจ้า
การขับถ่ายหลังจากดื่มน้ำมันมะกอกนั้น จะแตกต่างจากอุจจาระปกติ เชื่อกันว่าเป็นของเสียที่ออกมาจากตับและถุงน้ำดี ซึ่งของเสียของแต่ละคนก็จะมีลักษณะต่างกันไปขึ้นอยู่กับสุขภาพและของเสียสะสมของแต่ละคน




 ที่มา www.bookup.asia

วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เคล็ดลับการกระชับรูขุมขน ให้เล็กลง

     สวัสดีพี่จ้าเพื่อนๆบทความนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่อง "รูขุมขน" กันใครคนไหนรู้ตัวว่าตัวเองนั้นมี รูขุมขน กว้างต้องอย่าพลาดบทความนี้เลยทีเดียว !! ถ้าถามว่ามีวิธีไหนจะทำให้รูขุมขนเรากลับมากระชับเหมือนกับตอนวัยรุ่นอยู่บ้างไหม ตอบได้เลยว่า มี แต่เพื่อนๆต้องใจเย็นๆ ไม่ต้องไปรีบร้อนเร่งรัด เพราะการทำอะไรรีบๆหรือลวกๆอาจจะทำให้หน้าเพื่อนๆพังได้ ! เพราะฉะนั้นเรามาดูวิธีการ กระชับขูขุมขน กันเลยดีกว่า


เคล็ดลับการกระชับรูขุมขน

1. ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น และ ตามด้วยน้ำเย็น การทำแบบนี้จะทำให้สิ่งที่อุดตันอยู่บนใบหน้าหลุดออกมาเพราะน้ำอุ่นนั้นจะทำให้รูขุมขนเปิดออกแล้วให้นำน้ำเย็นมาล้างหน้าต่อเลยเพราะว่า น้ำเย็นนั้นจะเป็นตัวช่วยทำให้รูขุมขนปิดลง


2. น้ำแข็ง ก่อนนอนหรือตอนเย็นให้เพื่อนล้างหน้าให้สะอาดแล้วนำน้ำแข็งมาประคบบริเวณใบหน้าทำสัปดาห์ละ 2-3 วัน วิธีนี้ก็จะช่วยทำให้รูขุมขนกระชับได้เช่นกัน


3. อย่าล้างหน้าบ่อย ถึงแม้ว่าการล้างหน้าจะช่วยกระชับรูขุมขนได้ก็จริงแต่การที่ล้างหน้าบ่อยๆจะทำให้เป็นปัญหาผิวเพิ่มขึ้นมาอีกด้วยเพราะว่าการที่ล้างหน้าบ่อยๆทำให้ผิวขับน้ำออกมามากขึ้น


4. กำจัดความมันบนใบหน้า ส่วนข้อนี้ก็ทำได้ไม่ยากแค่เพื่อนๆไปซื้อโฟมล้างหน้าสูตรสำหรับกำจัดหน้ามันมาใช้เท่านั้นเอง

5. ปกป้องผิว การปกป้องผิวจากแสงแดดนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากๆขอแนะนำว่าให้เพื่อนๆทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้านนะจ๊ะ 
 วิธีที่บอกมาเป็นแค่เพียงวิธีที่เพื่อนๆสามารถทำได้ง่ายๆแต่เพื่อนๆคนไหนที่มีวิธีอื่นอีกก็สามารถเอาไปใช้ร่วมกันได้ เท่านี้รูขุมขนเพื่อนๆก็กลับมากระชับเหมือนเดิมอีกครั้ง                   

วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สีผมเทาควันบุหรี่ ของ รุจ เดอะสตาร์

        หลังจากที่หนุ่ม รุจ ศุภรุจ ได้เดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นชมใบไม้เปลี่ยนสี พร้อมอวดภาพผมสีใหม่เทาควันบุหรี่ของเขาแล้ว หล่อเจิดจรัสขยี้ใจสาวสุด ๆเลย ค่ะงานนี้
    

        ถือเป็นหนุ่มนักเที่ยวตัวยงเลยนะเนี้ย สำหรับนักร้องหนุ่ม รุจ ศุภรุจ เตชะตานนท์ หรือ รุจ เดอะสตาร์ ที่ล่าสุดเจ้าตัวบินลัดฟ้าไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
แบบนับครั้งไม่ถ้วน หลังจากที่หายหน้าหายตาไปนานแต่งานนี้ที่ทำให้แฟนคลับหลายคนตกอกตกใจนั้น เป็นเพราะ สีผมของหนุ่มรุจที่ปกติเคยเป็นสีเข้ม ๆ
มาตลอด และครั้งนี้กลับเปลี่ยนเป็น สีผมเทาควันบุหรี่ ยิ่งเจ้าตัวถ่ายภาพคู่กับใบไม้เปลี่ยนสีของประเทศญี่ปุ่นแล้ว บอกได้คำเดียวเลยว่า หล่อสุดๆ

  

ที่มา kapook  

วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ทำสีผมให้เข้ากับสีผิว


 

      สาวๆหลายคนนิยม ทำสีผม เพื่อช่วยเพิ่มความสดใสให้กับใบหน้าด้วยเหตุที่ว่าแต่ละคนมีสีผิวที่แตกต่างกัน การทำสีผมให้ดูดีก็ควรจะเป็นสีที่เข้าสีผิวของตัวเองด้วยนะค่ะ
โดยลักษณะสีผิวของคนเรามีหลายเฉดสีแบ่งได้ตามนี้



ผิวขาวอมชมพู (White Pink) สีผิวนี้อยู่ในกลุ่มโทนอุ่น สีของผิวจะดูเปล่งปลั่ง ดูมีสุขภาพดีกว่าสีผิวอื่นๆ สีผมที่เหมาะคือ เฉดสีบลอนด์ ควรเลือกบลอนด์ประกายหม่น โทนน้ำตาลทอง และทองแดงประกายน้ำตาล หรืออาจจะเพิ่มมิติของผมด้วยการทำไฮไลท์แบบอ่อนกว่าสีพื้นที่ทำเล็กน้อย

ผิวขาวอมเหลือง (Ivory Peach) สีผิวลักษณะนี้จัดอยู่ในกลุ่มโทนเย็น สีผิวนี้อาจทำให้ใบหน้าแลดูผิวซีด ไม่สดใส ควรทำสีด้วยผมโทน สีแดง โทนม่่วงแดง หรือควรเลือกสีผมที่มีประกายม่วงเหลือบแดง น้ำตาลแดงประกายม่วง แดงเข้มประกายแดง





ผิวสองสีหรือสีผิวน้ำผึ้ง (Golden Beige Amber) สีผิวลักษณะนี้อยู่ในกลุ่มโทนเย็น ผิวดูคมเข้ม เหมาะกับสีผมโทนสีทองเคลือบประกายทอง สีน้ำตาลอ่อน หรือเพิ่มมิติโดยการเลือกทำโลไลท์สีน้ำตาลอ่อนไล่ระดับ เพื่อขับเน้นให้ใบหน้าแลดูสว่างขึ้น


ผิวสีแทนหรือผิวคล้ำเข้ม (Beige Olive) สีผิวลักษณะนี้จัดอยู่ในกลุ่มโทนอุ่น เป็นผิวที่เหมาะกับสีผมน้ำตาลแท้ น้ำตาลช็อคโกแลต และมอคค่า เพื่อขับเน้นให้ผิวที่เข้มดูสว่างขึ้น

 

      สิ่งที่ดีที่สุดก่อนจะทำสีผม ควรนำผมที่เป็นตัวอย่างทดลองที่ได้จากการทำสีมาเทียบกับผิวบริเวณผิวของเราเพื่อความชัวร์ค่ะ เพราะสีแต่ละสีเมื่ออยู่ในที่ที่แสงต่างกัน อาจทำให้สีเพี้ยนไปได้

วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2557

การนวด อโรมาเธอราพี

     สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้เราจะมาคุยกันถึงเรื่องของ "การนวด" เพื่อนๆหลายคนคงเคยได้ยินได้รู้จักการนวดกันมาบ้างแล้ว การนวดนั้นก็มีหลายแบบหลายประเภทแต่ในวันนี้เราจะมาพูดกันถึงการนวดแบบ "อโรมาเธอราพี กันนะค่ะ
    การนวด โดยทั่วไปนั้นเพื่อนๆหลายอาจจะเข้าใจว่า นวด เพื่อให้ร่างกายหายปวดเมื่อยในจุดที่เราต้องการเพียงแค่นั้น แต่ต้องบอกเพื่อนๆให้เข้าใจกันตรงนี้เลยว่า การนวดในสมัยนี้นั้นไม่ได้เป็นแค่การนวดเพื่อแก้ปวดเมื่อยอีกต่อไปแล้ว เพราะในยุคสมัยนี้มีการนำ น้ำมันหอมที่มีส่วนผสมของสมุนไพรต่างๆที่ช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคล้าย และการนวดนั้นยังไปช่วยให้กระตุ้นให้เลือดลมไหลเวียนดียิ่งขึ้น และการที่เลือดลมเราไหลเวียนดีมันยิ่งทำให้เรารู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวาแถมยังทำให้ผิวพรรณเราดูดีขึ้นมาอีกด้วย

    การนวดแบบ "อโรมาเธอราพีนั้นเป็นการนวดด้วยน้ำมันหอมระเหยที่มีส่วนผสมของสมุนไพรที่มีประโยชน์หลายชนิดเข้าด้วยกันอย่างที่บอกไปข้างต้น และน้ำมันหอมระเหยชนิดนี้มีประโยชน์มากเพราะกลิ่นของมันนอกจากจะหอมแล้วพอแล้วสูดดมเข้าไปในร่างกายจะทำให้เรารู้สุกผ่อนคล้าย กระตุ้นโฮมอนต่างๆในร่างกายออกมาได้อีกด้วย

   การนวดแบบน้ำมันหอมระเหยนั้นแตกต่างการนวดด้วยน้ำมันแบบธรรมดามากเพราะว่าการนวดแบบอโรมาเธอราพีนั้นมีน้ำมันหอมระเหยที่สกัดมาจากธรรมชาติจึงจะไม่มีสารพิษที่อาจจะทำให้ร่างกายเราเกิดอาการแพ้หรือคันได้ และด้วยน้ำมันหอมระเหยนั้นยังมีกลิ่นมีหอมและน้ำในน้ำมันหอมนั้นจะเป็นแบบเดียวกับน้ำมันในผิวเราจึงทำให้ผิวของเราสามารถดูดซึมน้ำมันเข้าไปได้อย่างไม่เกิดอาการเหนียวเหนอะหน่ะที่ผิวของเราแน่นอนแต่น้ำมันหอมระเหยจะทำให้ผิวเราชุ่มชื่นมากยิ่งขึ้น

วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2557

IPL กับข้อคิดเห็นผู้เชี่ยวชาญ คุณหมอ ยิ้ม





1.คุณหมอยิ้มช่วยแนะนำตัวหน่อยได้ไหมคะ?
ผม หมออภิสิทธิ์ ศิริชัย จบแพทย์ศาสตร์บันฑิต ตั้งแต่ปี 2542 เป็นแพทย์ตั้งแต่จบการศึกษา เข้าศึกษาต่อเชี่ยวชาญเฉพาะทาง พ.ศ. 2542-2545 เรียนต่อเชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมกับทำงาน จบมาทำที่นิติพลคลีนิก 7 ปี เปิดคลีนิคเป็นของตนเองอีก 5 ปี รวมอายุงาน 15 ปี (15 ปี รวม 3 ปีเรียนเชี่ยวชาญพร้อมทำงาน) 12 ปีนี้ทำงานเกี่ยวกับความสวยความงามตลอดมา
2.อยากจะให้คุณหมออธิบายเกี่ยวกับ IPL หน่อยได้ไหมคะ?
IPL ย่อมาจาก Intense Pulse Light หมายถึงมันตัวแสงที่มีความยาวหลายค่าคลื่นแสงนะครับ เป็นแสงที่มีความเข้มข้นข้นสูงกว่าแสงปกติทั่วไป แล้วออกมาเป็น Pulse หมายถึง แสงที่ออกเป็นจังหวะๆ IPL สามารถใช้ได้หลายอย่าง แต่โดยทั่วไปเราใช้ IPL กับผิวหนัง ทำให้เกิดการกำจัดรอยดำต่างๆบนผิวหนัง กำจัด กระ ฝ้า ลดผิวดำ ด่าง ปาน หรือจะนำไปกำจัดขนก็ได้ หลักการก็คือแสงพวกนี้จะทำให้เม็ดสีในผิวหนังมีการดูดซับแสง แล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน โดยที่ว่า แสงทั้งหมดมีหลายค่าเราจะกรองค่าที่เราต้องการนำมาใช้โดยผ่านฟิลเตอร์ต่างๆ เมื่อแสงยิงผ่านไปที่ผิวหนังทำให้เกิดความร้อน ดังนั้น IPL เราจะใช้ความเย็นเข้าช่วยลดความร้อนในชั้นผิวที่ตื้นๆ โดยที่ทำให้ผิวชั้นลึกได้รับปริมาณความร้อนสูงกว่าผิวชั้นตื้น ผลที่ได้ก็คือ ทำให้เกิดความปลอดภัยบริเวณผิวชั้นตื้นไม่เกิดแผลเป็นหรือรอยไหม้ ในขณะที่ผิวชั้นลึกจะได้รับความร้อนในปริมาณสูง หลังจากนั้น เราจะเลือกว่าให้เซลล์ชนิดไหนได้รับพลังงานสูงกว่าเซลล์ชนิดไหนโดยการคัดกรองค่าแสงจากแสงที่ออกมานั่นเอง
IPL เป็นแสงชนิดหลายสเปกตรัม มีค่าแสงหลายช่วง แสงชนิดนี้มีความเข้มข้นมากกว่าแสงปกติทั่วๆไป Pulse หมายถึง แสงที่ออกเป็นจังหวะเดียว IPL สามารถใช้รักษาความผิดปกติหรือปัญหาผิวหนังได้ IPL เน้นใช้การรักษาสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวคล้ำ ปาน ริ้วรอย ฝ้าและยังสามารถขัดขนบนใบหน้าได้อีกด้วย  นอกจากนี้ IPL เป็นที่นิยมใช้ในการรักษาสิวหรือป้องกันการเกิดริวร้อยอีกด้วย ค่าแสงหลายช่วงจะซึมผ่านเข้าผิวหนังทำให้ผิวหนังสร้างคอลาเจนขึ้นมาใหม่ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหรืออาการที่เข้ารับการรักษา การรักษาด้วย IPL สามารถรักษาได้ตั้งแต่ 3 ถึง 10 ครั้ง คนไข้สามารถเห็นผลได้ทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ารับการรักษา หากคนไข้พอใจผลของการรักษาสามารถรักษาต่อหรือหากไม่พอใจผลของการรักษา ก็สามารถหยุดการรักษาได้ทันที
3.การรักษาด้วย IPL กับ เลเซอร์ ต่างกันอย่างไร?
การรักษาแบบ IPL และ เลเซอร์ ใช้แตกต่างกันค่อนข้างมากและให้ผลการรักษาที่ไม่เหมือนกัน การรักษาแบบเลเซอร์นั้นมีความเข้นข้นและข้อห้ามต่างๆมากกว่า ตัวอย่างเช่น หากคนไข้เข้ารับการรักษาด้วยเลเซอร์จำเป็นที่จะต้องปกป้องผิวไม่ให้โดนแสงแดดเป็นเวลาหลายสัปดาห์ แต่การรักษาด้วยเลเซอร์มีประสิทธิภาพในการรักษาดีกว่า IPL นอกจากนี้ การรักษาด้วยเลเซอร์ยังมีคุณสมบัติรักษาผิวหนังซึ่ง IPL ไม่สามารถทำได้

4.การรักษาแบบ IPL มีผลข้างเคียงหรือไม่ หลังจากเข้ารับการรักษาควรจะต้องดูแลอย่างไรบ้าง?
จริงๆก็ไม่มีผลข้างอะไร แต่หมอจำเป็นต้องลอง IPL จุดเล็กๆบนผิวหนังเสียก่อน ถ้าไม่มีอาการระคายเคืองหรือแพ้หมอจึงจะทำการรักษาบนในหน้า อย่างไรก็ดี การรักษาแบบ IPL นั้นก่อให้เกิดความร้อนบนผิวหนัง เราจึงจำเป็นจะต้องใช้ครีมพิเศษที่มีความเย็นทาบริเวณที่รักษา ความเย็นจะช่วยปกป้องผิวจากความร้อนไม่ให้เกิดรอยไหม้หรือแผลเป็น นอกจากนี้ยังสามารถเลือกบริเวณผิวที่โดนความร้อนโดยผ่านกระบวนการกรองแสง

5.สามารถรวมการรักษา IPL เข้ากับการรักษาแบบอื่นๆได้หรือไม่?
หมอสามารถรวมการรักษาแบบ IPL เข้ากับการรักษาแบบอื่นๆได้เช่น เมโซเทอราปี การรักษาแบบเลเซอร์ การลอกผิวหนัง เป็นต้น ตัวอย่างการทดลองโดยการใช้ IPL ฉีดลงบนใบหน้าเพื่อรักษาสิวเพียง 45 นาที สามารถลดอาการอักเสบของสิวอย่างเห็นได้ชัด และหลังจากนั้น ยังสามาถลดการเกิดสิวและรอยแผลเป็นได้อีกด้วย
SRC BLOSSOM CLINIC http://bookup.asia/114898 

วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557

การกำจัดขนด้วยเลเซอร์


      ถ้าต้องการกำจัดกับขนที่เราไม่ต้องการภายในร่างกายเราไม่ว่าจะเป็นบริเวณต่างๆเช่น ที่แขน ขา หรือที่ลับ เทรนด์ที่กำลังมาแรงตอนนี้ก็หนีไม่พ้นการรักษาด้วย "เลเซอร์ "ค่ะ เพราะถือเป็นขั้นตอนการทำศัลยกรรมที่ปัจจุบันนี้ได้รับการทดสอบแล้วว่าไม่เป็นอันตรายและปลอดภัยสำหรับเลเซอร์ ทางการแพทย์จะใช้ในการรักษาจำพวก การลบจุดด่างดำ ริ้วรอย รอยสิว รวมทั้งรอยสัก แต่การใช้เลเซอร์ในการกำจัดขนมันไม่ได้มีผลถาวร ต้องทำให้เป็นประจำนวัตรกรรมนี้ให้ผลการรักษาที่ให้ออกมาเป็นที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับวิธีการกำจัดขนด้วยวิธีอื่นและสามารถนำมาประกอบกับผลประโยชน์หลายอย่างสำหรับวิธีนี้แล้ว ได้ทำการศึกษาแล้วว่าเป็นอีกวิธีที่ดีที่สุดและควรเลือกเทคนิคการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ สำหรับเลเซอร์กำจัดขนจะเห็นผลในระยะยาวและผลลัพธ์ที่น่าพอใจ เมื่อเราจัดการกับขนที่ไม่พึงประสงค์ในส่วนหนึ่งของร่างกายออกไป ผลในระยะยาวนี้เป็นสิ่งสำคัญมากเพราะผลที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจสำหรับผู้ที่ผ่านการเลเซอร์ เมื่อเปรียบเทียบกับเทคนิคอื่นๆ เช่น การโกน  หรือแว็กซ์  เลเซอร์มีอัตราที่สูงมากของการลดการเจริญเติบโตของขน มีตั้งแต่ 60 ถึง 95 เปอร์เซ็นต์  
      การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ เป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่มีอันตรายและไม่ซับซ้อนในขณะที่คนไข้บางคนอาจจะมีผลข้างเคียงบ้างเล็กน้อย แต่ผลข้างเคียงสามารถรักษาได้ง่าย  ไม่ต้องกังวลเพราะการรักษาด้วยเลเซอร์ไม่มีความเจ็บปวด ไม่เหมือนกับการแว็กซ์หรือการถอนขน เราจะไม่รู้สึกเจ็บและขั้นตอนในการทำนอกเหนือจากความร้อนพอประมาณและความรู้สึกเจ็บเล็กน้อย  ขั้นตอนนี้เป็นปกติไม่เจ็บปวด  ทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ โดยการรักษาด้วยเลเซอร์สามารถดำเนินการโดยไม่คำนึงถึงสภาพผิวของคุณ เพราะสามารถทำได้ทุกสภาพผิว เหมาะสำหรับทั้งชายและหญิง  เพราะเป็นเทคนิคที่แม่นยำมากอุปกรณ์ที่ใช้และกลไกที่แน่นอนของเลเซอร์นี้ มีความแม่นยำและถูกต้อง   ทำให้สามารถกำหนดเป้าหมายที่เฉพาะจุดของขนโดยไม่มีผลต่อผู้ผู้ใช้งาน  แสงเลเซอร์จะทำการกำหนดเป้าหมายที่ขนหยาบๆแล้วทำการกำจัดขนนั้นออกไป ข้อดีคือ เลเซอร์จะไม่ทำลายผิว
      ประสบการณ์ที่ผ่านมาของเลเซอร์ จะมีอัตราความสำเร็จที่สูง และมีประสิทธิภาพมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะช่วยทำให้การกำจัดของขนที่ไม่พึงประสงค์ของเราได้ดี  การทำลายของเมลานินและเม็ดสีที่เป็นหนึ่งเดียวที่ทำให้เกิดความคล้ำของผิวและกำจัดขนที่ไม่พึงประสงค์ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดเท่าที่แสงเลเซอร์จะกระทำต่อรากของเส้นขน  เทคนิคนี้สามารถดำเนินการในส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที
    แม้ว่าการกำจัดขนด้วยเลเซอร์จะมีราคาสูงแต่ก็ให้ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจในระยะยาวสั้นๆ และไม่จำเป็นต้องทำซ้ำๆบ่อยๆ และนี้หมายความว่าเราจะไม่ใช้จ่ายเงินไปกับการกำจัดขนที่ไม่พึงประสงค์ของเรามากเกินไปซึ่งภายหลังจะช่วยให้คุณประหยัดเงิน และยังมีเวลาเลเซอร์มีความปลอดภัยมากในส่วนของร่างกายทั้งหมดซึ่งแตกต่างจาก     เทคนิคการกำจัดขนอื่น ๆ การรักษาขนด้วยเลเซอร์นี้จะสามารถใช้กับส่วนใดก้ได้ของร่างกายเช่น ใต้วงแขน, หน้า, ขา แขนและหลัง ถือเป็นสิ่งที่ดียิ่งสำหรับบริเวณที่มีความสำคัญของเรา
                     
     เลเซอร์ไม่มีอันตราย แม้ว่าจะใช้กับส่วนที่มีความเปราะบางหรือ เนื้อที่อ่อนๆ เชลล์ผิวบาง นั่นหมายความว่าการรักษาแบบนี้จะประหยัดเวลาและมีความปลอดภัยสูง 

การจัดฟัน แบบไหนดี




ปัจจุบัน การจัดฟัน เหมือนจะเป็นกระแสนิยมตามแฟชั่นมากกว่าที่จะรักษาสุขภาพฟัน สังเกตว่าลักษณะของเหล็กดัดฟันจะเน้นที่สีสันความสดใส เพื่อกระตุ้น แฟชั่นให้กลุ่มวัยรุ่นเข้ามาใช้บริการจัดฟัน
  ดังนั้นการดัดฟันหรือการจัดฟัน นั้นเป็นการ จัดการเคลี่อนฟันไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม โดยอาศัยเครื่องมือบางชนิดซึ่งมีทั้งแบบถอดได้ และแบบที่ยึดติดอยู่ กับตัวฟัน แบบที่อยู่ในช่องปากและแบบที่อยู่นอกช่องปากนอกจากนี้การจัดฟันยังรวมไปถึงการแก้ไขลักษณะนิสัยที่ผิดปกติในการบดเคี้ยว การเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของขากรรไกร เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดทั้งในด้านความสวยงาม และการทำหน้าที่
การจัดฟันจากสาเหตุ ที่พบบ่อยๆ คือ
1. จัดฟัน เพราะฟันเก เรียงตัวไม่ดีทำให้เคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียดหรือเคี้ยวได้ไม่ดี
2. จัดฟัน เพราะฟันซ้อนเก ทำให้แปรงฟันหรือทำความสะอาดฟันได้ยาก จะทำให้เกิดฟันผุและเหงือกอักเสบได้ง่าย
3. จัดฟัน เพราะฟันไม่สวยงาม เช่น ฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันยื่น มีเขี้ยว ฟันกระต่าย ฯลฯ
4. จัดฟัน เพราะขากรรไกรผิดรูป หรือฟันเกจากนิสัยที่ผิดปกติบางอย่าง เช่น การดูดนิ้ว การกลืนที่ผิดปกติ
5. จัดฟัน เพราะฟันล้มเอียง หรือห่างจากกันเนื่องจากการถอนฟันแล้วทิ้งไว้โดยไม่ได้ใส่ฟันปลอมนานเกินไป
6. จัดฟัน เพราะมีประวัติปากแหว่ง เพดานโหว่ หรืออุบัติเหตุ ทำให้ขากรรไกรและการเรียงตัวของฟันผิดรูปไป
1.ความสวยงาม การจัดฟันจะทำให้ฟันเรียงตัวสวยงามเป็นการเสริมสร้างบุคลิกภาพและเพิ่มความมั่นใจให้แก่ตัวเองอีกด้วย
2.ฟันซ้อนเก ตัวอุปสรรคที่จะทำให้เราทำความสะอาดหรือแปรงฟันได้ยากและไม่ทั่วถึง ส่งผลให้มีคราบอาหารและคราบจุลินทรีย์รวมทั้งหินปูนมาเกาะจับที่ตัว 
ฟันอยู่เยอะ ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆก็จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดฟันผุและโรคเหงือกได้ ฟันซ้อนเก จะทำให้เมื่อเราใช้ฟันในการบดเคี้ยวอาหารประจำวัน จะเกิดการสึกของฟันในตำแหน่งที่ไม่ควรจะเกิดทำให้การสบฟันผิดจากตำแหน่งปกติที่ ควรจะเป็น จึงส่งผลให้ยิ่งนานไปยิ่งจะทำให้เกิดปัญหาต่อตัวฟัน เหงือกและข้อต่อขกรรไกร
3. การบดเคี้ยวอาหาร การจัดฟันจะทำให้บดเคี้ยวอาหารได้ดียิ่งขึ้น และย่อยอาหารได้ดียิ่งขึ้น กระเพาะอาหารไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป เนื่องจากการบด เคี้ยวเป็นขั้นแรกในการย่อยอาหาร
4.จัดฟันแล้วทำให้ปัญหาต่างๆทางทันตกรรมลดลง

ทำปากกระจับแก้ไขปากหนาให้ดูน่ารัก เซ็กซี่มีเสน่ห์


กำลังมาแรงไม่แพ้การศัลยกรรมจมูกเลยทีเดียว สำหรับการศัลยกรรมปากกระจับ เพื่อช่วยตกแต่งริมฝีปากบนที่ค่อนข้างหนา หรือแก้ไขปากที่มีรูปทรงไม่สวยงาม ให้ดูน่ารักมีกระจับเป็นรอยหยักที่ดูเซ็กซี่มีเสน่ห์กว่าเก่า แต่หลังจากที่ตัดสินใจทำศัลยกรรมปากกระจับไปแล้ว สาว ๆ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมตัวหรือดูแลแผลอย่างไรดี วันนี้เราเลยขอนำข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับอาการที่เกิดขึ้นหลังการทำศัลยกรรมปาก รวมถึงวิธีการดูแลตัวเองมาฝากสาว ๆ เพื่อเป็นประโยชน์แก่คนที่เพิ่งไปทำศัลยกรรมและกำลังสนใจการศัลยกรรมนี้อยู่ ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยค่ะ



การดูแลรักษาอย่างถูกต้องและถูกวิธี ด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังนี้
1. ประคบเย็นอย่างต่อเนื่องใน 3 วันแรกและให้พักผ่อนให้มากที่สุด ด้วยการนอนหนุนหมอนสูง จากนั้นจึงนำผ้าขนหนูห่อน้ำแข็งประคบบริเวณรอบปากหรือช่วงแก้ม หลีกเลี่ยงการประคบบริเวณรอยแผล เพื่อป้องกันอาการบวมที่อาจเกิดขึ้นได้
2. รักษาความสะอาดบริเวณริมฝีปากและช่องปากอยู่เสมอ ด้วยการแปรงฟันอย่างเบามือ หรือใช้น้ำเกลือแทนน้ำยาบ้วนปากเมื่อรับประทานอาหารเสร็จทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เศษอาหารตกค้างสะสมจนทำให้แผลติดเชื้อ
3. งดกิจกรรมที่จะทำให้แผลกระทบกระเทือน เช่น การขยับริมฝีปากกว้าง พูด หรือหัวเราะมากจนเกินไป การสัมผัสจับริมฝีปาก การเคี้ยวอาหารที่มีความแข็งและเหนียว เล่นกีฬา และที่สำคัญยังควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 1-2 เดือนอีกด้วย
4. รับประทานยาตามแพทย์สั่ง และทำตามคำแนะนำของแพทย์ให้ครบและหมดภายในระยะเวลาที่ได้กำหนด


 

สำหรับ การทำปากกระจับ หรือปากบาง สามารถทำได้โดยการฉีดยาชาเฉพาะที่ และตัดริมฝีปากส่วนเกินออก โดยแผลจะอยู่ด้านในริมฝีปาก (มองไม่เห็นแผลจากด้านนอก) ไหมที่เย็บเป็นไหมละลายค่ะ ทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้เลยจ้า


       
    เมื่อทราบถึงอาการและวิธีดูแลตัวเองหลังจากทำศัลยกรรมปากแล้ว คราวนี้สาว ๆ ที่คิดจะทำสวยให้กับริมฝีปากก็คงจะเบาใจแล้วใช่ไหมคะ เอาเป็นว่าใครกำลังสนใจและคิดจะทำศัลยกรรมปากกระจับ ยังไงก็อย่าลืมเลือกทำศัลยกรรมกับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้วยนะคะ

หน้าท้องแบนเรียบง่ายๆ อาหารช่วยได้

     ปัจจุบันคนเริ่มหันมาออกกำลังกายและเลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์กันเยอะขึ้นค่ะ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย  ก็ใครล่ะจะอยากจะมีพุงพลุ้ยที่มีแต่โรครุมเร้า  แต่ถ้าหากคิดว่าออกกำลังกายเยอะแล้ว กินอาหารที่ดีแล้ว แต่พุงเจ้ากรรมก็ยังไม่ลดสักที ก็คงถึงเวลาที่ต้องเลือกกินอาหารช่วยลดไขมันที่หน้าท้องกันหน่อยแล้วล่ะ มาดูกันจ้าว่ามีอะไรกันบ้าง 

1. โยเกิร์ตเนื้อข้น (Plain Greek Yogurt)   เพราะในโยเกิร์ตเนื้อข้นมีโปรตีนสูง ซึ่งหากใครที่นิสัยไม่ดีชอบกินจุกจิกระหว่างวัน อาจเลือกไว้เป็นอาหารกินเล่นระหว่างวันได้ ซึ่งมันจะไม่ทำให้มีพุงแน่ ๆ อีกทั้งโปรตีนในโยเกิร์ตเนื้อข้นจะช่วยควบคุมความอยากอาหารและช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องได้ยาวนานด้วย

2. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี   พวกผลไม้ตระกูลเบอร์รีทั้งหลาย มีน้ำตาลน้อยและอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ หากใครที่อยากมีหน้าท้องแบนราบ ให้กินผลไม้ตระกูลเบอร์รี 1 ถ้วยทุกวันเพื่อช่วยลดไขมันตรงหน้าท้อง อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร รักษาระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยลดอาการท้องอืด นอกจากนี้ผลไม้ตระกูลเบอร์รียังให้พลังงานมากมายระหว่างวันหรือเวลาที่คุณออกกำลังกายอีกด้วย 
3. ไข่    ไข่ ถือเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับคนที่อยากมีหน้าท้องแบนราบเลยก็ว่าได้ เพราะในไข่อุดมไปด้วยโปรตีน ที่จะช่วยเผาผลาญไขมันตามธรรมชาติอยู่แล้ว ลองหันมากินไข่ทุก ๆ วันในมื้อเช้า ก็จะช่วยให้คุณกินอาหารได้น้อยลงและช่วยให้ได้รับอาหารที่มีประโยชน์เข้าสู่ร่างกายด้วย

4.  คีนัว (Quinoa)   หลายๆคนอาจไม่ค่อยคุ้นหูกับคีนัวมากนัก แต่ถ้ารู้จักแล้วคุณจะรีบไปหามากินอย่างเร็วเลยล่ะ คีนัวเป็นเมล็ดพืชชนิดหนึ่งที่พวกเหล่าคนรักสุขภาพชอบกิน เพราะในคีนัวครึ่งถ้วย อุดมไปด้วยโปรตีน 11 กรัมและใยอาหาร 5 กรัม ซึ่งคุณอาจจะนำไปใส่ในสลัดเพื่อเพิ่มความอร่อยก็ดีไม่น้อย

5. อะโวคาโด   เป็นสุดยอดผลไม้ที่คนรักสุขภาพต่างก็หลงรัก เพราะมันช่วยเพิ่มพลังได้มากมาย แค่เพียงฝานอะโวคาโดออกครึ่งหนึ่งแล้วกิน ร่างกายก็จะได้รับใยอาหารกว่า 15 กรัม แถมยังช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องนาน แต่หากคว้านอะโวคาโดมาใส่ถ้วยปริมาณ ¼ ก็จะได้รับกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดโมโน ซึ่งจะช่วยในการเผาผลาญไขมันตรงหน้าท้อง เห็นไหมล่ะว่าน่าหามากินจริง ๆ เลย
6. สลัดผักใบเขียว   คนที่รักสุขภาพและดูแลรูปร่าง จะต้องยกให้สลัดเป็นสุดยอดอาหารอยู่แล้วล่ะ แต่ถ้าหากต้องการเพิ่มโปรตีนด้วย ก็อาจจะใส่เนื้อไก่ต้มหรือปลาลงไป เพื่อให้คุณได้รับความอร่อยจากสลัดมากยิ่งขึ้น หากใครอยากรูปร่างดีหน้าท้องแบน ลองเลือกสลัดผักใบเขียว ที่จะช่วยเพิ่มพลัง และลดพุงมากินกันเถอะ
7. แอปเปิล   เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์เต็มพิกัด แล้วก็ยังเป็นอาหารสุขภาพที่กินได้ทุกวันทุกเวลา ในแอปเปิลแต่ละลูกมีใยอาหาร 5 กรัม รวมทั้งสารเพคติน ซึ่งเป็นตัวช่วยเผาผลาญไขมันธรรมชาติ ที่สำคัญแอปเปิลยังมีน้ำตาลและแคลอรี่น้อย ซึ่งใครที่ชอบกินขนมจุกจิกระหว่างวัน อาจจะพกแอปเปิลติดตัวไว้กินแทนขนมชนิดอื่น ๆ เพื่อจะได้เป็นเจ้าของหน้าท้องที่แบนราบได้ในเร็ววันยังไงล่ะ
8. ปลา   สำหรับปลาช่วยเร่งการเผาผลาญอาหารและช่วยลดความอยากอาหาร อีกทั้งในปลายังมีโปรตีน แล้วถ้าเลือกกินปลาพวกแซลมอนหรือทูน่า ในนั้นจะอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยให้น้ำหนักลดเร็วและช่วยเผาผลาญไขมัน ที่สำคัญยังอร่อยด้วยนะ
        ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ สำหรับการหาอาหารเหล่านี้มารับประทานเพื่อดูแลตัวเอง หาชื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง และความสุขทั้งกายและใจ เราต้องรู้จักการดุแลเอาใจใส่ตัวเองให้มากขึ้นจ้า 

ที่มา bookup.asia